เจ้าหน้าที่สงขลาเร่งคัดแยกเมียนมา-โรฮิงญาลักลอบเข้าไทย 61 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยในวันพุธนี้ว่า กำลังดำเนินการคัดแยกเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ชาวเมียนมา-โรฮิงญา 61 คน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวในวันที่ 25 มีนาคม 2565 จากรีสอร์ทในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะที่นายหน้าเตรียมส่งตัวข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ด้านนักสิทธิมนุษยชนชี้ การอพยพข้ามมายังประเทศไทยของชาวโรฮิงญา อาจเพราะสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมา

พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้เข้าจับกุมผู้นำพา และคุมตัวชาวเมียนมา-โรฮิงญา 61 ราย จากทุ่งลุงรีสอร์ท ถ.กาญจนวณิช ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

“จับกุมตัวนายกีรติ เจริญใจ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดอ่างทอง พร้อมรถกระบะ 1 คัน ในข้อหาร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยทั้งหมดต้องการเดินทางไปยังชายแดนเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม” พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ระบุ

“นายกีรติให้การว่า ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท ให้ทำหน้าที่ขนชาวโรฮินญา 61 คน จากอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ใช้รถยนต์กระบะ 4 คัน ก่อนนำมาพักค้างไว้ที่วัดบางธน ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ และมีเป้าหมายจะเดินทางยังรีสอร์ทที่เกิดเหตุ เพื่อพักค้างก่อนเตรียมตัวส่งต่อไปยังชายแดน เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ก็มาโดนสกัดจับได้เสียก่อน” พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ เปิดเผย

พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้น ชาวเมียนมา-โรฮิงญาให้ข้อมูลผ่านล่ามว่า ได้ว่าจ้างให้คนนำพาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา มาพักรอที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี เพื่อเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปยังประเทศที่สามผ่าน จ.สงขลา โดยมีค่าใช้จ่ายคนละ 151,000 บาท ต้องจ่ายก่อนเดินทาง 130,000 บาท และที่เหลือต้องจ่ายเมื่อถึงปลายทาง ซึ่งคนที่ถูกควบคุมตัวได้ส่วนใหญ่มีสมาชิกครอบครัวทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซีย

ต่อมาในวันพุธนี้ ร.ต.อ. ไตรภพ ดอนไพรเล้า รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดี ระบุว่า ยังไม่พร้อมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดี แต่ปัจจุบันชาวเมียนมา-โรฮิงญา ทั้งหมดถูกนำตัวไปยังค่ายท่านมุก ใน อ.สะเดา และ อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อดำเนินการคัดแยกว่า ใครเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ และใครเป็นผู้ที่ชักจูง หรือนำพา

ด้าน นางนา (สงวนนามสกุล) อดีตผู้ประกอบอาชีพนายหน้านำพาชาวเมียนมา-โรฮิงญาเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีการลักลอบนำพาชาวเมียนมา-โรฮิงญาผ่านชายแดนธรรมชาติไปยังประเทศมาเลเซีย

“ช่วงนี้ ถือว่ายังเข้าออกได้ปกติ แต่ถือว่าน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยขบวนการพยายามใช้เวลาที่ชายแดนให้น้อยที่สุด เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ ตลอด 2 ปีที่ด่านมาเลเซียปิด ด่านไทยปิด แรงงานเหล่านี้ยังสามารถเดินทางไปมาได้ปกติ”​ นางนา เปิดเผยข้อมูล

ขณะที่ น.ส. พุทธณี กางกั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน องค์กรฟอร์ติฟายไรท์ ระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการอพยพข้ามมายังประเทศไทยของชาวโรฮิงญา

“ปัญหาการเมือง และการสู้รบในเมียนมา น่าจะเป็นปัจจัย ที่ทำให้มีชาวเมียนมา โรฮิงญา และทุก ๆ ชาติพันธุ์หนีเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็มีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจไม่สามารถระบุได้ว่าการข้ามมาในช่วงนี้มีมากกว่าในอดีต คิดว่าแนวทางที่ คุณสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงาน เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะพยายามเอาผู้ลี้ภัยเข้าสู่ระบบแรงงานเพราะไทยมีความต้องการแรงงาน น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งฝั่งไทย และผู้ลี้ภัยที่พยายามเข้ามา แทนที่จะเป็นการผลักดันเขากลับประเทศ” น.ส. พุทธณี กล่าว

ขณะเดียวกัน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้แนะนำให้รัฐบาลไทยปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยการสู้รบจากเมียนมาโดยไม่พยายามผลักดัน หรือส่งกลับผู้ลี้ภัย หากเห็นว่าจะทำให้พวกเขาเกิดอันตราย และไม่ดำเนินคดีทางอาญา หรือลงโทษเพียงเพราะเหตุผลการเข้าเมืองของผู้ลี้ภัย