แม่สอด-เมียวดี สองฝั่งชายแดนในหมอกควันสงคราม
2024.04.24
อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
หลังกองทัพเมียนมาทำรัฐประหารยึดอำนาจจาก วิน มินต์ ประธานาธิบดี และอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ประชาชนเมียนมาที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารลุกขึ้นประท้วงกองทัพ ขณะที่คณะรัฐประหารซึ่งนำโดย พล.อ. อาวุโส มิน ออง ลาย ก็ตอบโต้ด้วยความรุนแรง สถานการณ์ที่คุกรุ่นปลุกให้กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ จับอาวุธขึ้นสู่กับกองทัพเมียนมา
นับตั้งแต่ที่พันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army - MNDAA) กองกำลังปลดปล่อยชาติตะอาง (Ta'ang National Liberation Army - TNLA) และ กองทัพอาระกัน (Arakan Army - AA) ได้รวมตัวกันเมื่อ 27 ตุลาคม 2566 บุกโจมตีกองทัพเมียนมา ในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐฉาน โดยใช้ชื่อปฏิบัติการ 1027 โดยมีเป้าหมายโค่นล้มระบอบเผด็จการทหาร และสถาปนาสหพันธรัฐประชาธิปไตยแห่งสหภาพพม่า
กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ได้ร่วมกันบุกโจมตีกองทัพเมียนมา และกองกำลังพันธมิตร เพื่อยึดครองเมืองต่าง ๆ กระทั่งต้นเดือนเมษายน 2567 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen Nation Liberation Army - KNLA) กลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union - KNU) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People's Defence Force - PDF) ได้ประกาศว่า สามารถควบคุมพื้นที่เมียวดีไว้ได้
“IDP (Internally Displaced People หรือผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ) เพิ่มสูงขึ้นมาก ประเมินแล้วน่าจะมากกว่า 750,000 คน การสู้รบยังมีเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะเขตตรงข้ามแม่สอด พบพระ อุ้มผาง คนก็เลยต้องขยับมาใกล้ชายแดนมากขึ้น” พรสุข เกิดสว่าง กรรมการมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน กล่าว
แม้กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์จะสามารถยึดพื้นที่ได้ แต่กองทัพเมียนมาก็ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะยึดเมืองที่เสียไปกลับคืนมา การสู้รบภายในประเทศจึงยังดำเนินต่อไป ประชาชนบางส่วนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สู้รบจึงต้องอพยพมาอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวใกล้ชายแดนไทย ซึ่งห่างไกลจากการสู้รบมากกว่า
สำหรับประเทศไทย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเมียวดี เพียงแม่น้ำเมยกั้น กลายเป็นพื้นที่รองรับผู้หนีภัยและกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลไทย สำหรับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
อย่างไรก็ตาม คนแม่สอดก็ยังคงพยายามใช้ชีวิตอย่างปกติ แม้บางครั้งจะยังได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิดจากฝั่งเมียนมาก็ตาม
“เขารบกันฝั่งโน้น ฝั่งนี้ก็ยังปกติ คนก็ยังมาเที่ยวเหมือนเดิม วันธรรมดาอาจจะน้อยหน่อย เสาร์-อาทิตย์คนก็เยอะหน่อย เราก็คอยฟังข่าวกันไป แต่ไม่ได้กลัว” มะลิ (สงวนนามสกุล) พนักงานบริการในแม่สอด กล่าว
ด้าน สมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยกับสื่อมวลชนวานนี้ว่า ปัจจุบัน สถานการณ์การสู้รบในเมียนมาลดความรุนแรงลงจากเมื่อสุดสัปดาห์ ทำให้ชาวเมียนมาซึ่งหนีภัยสู้รบมาอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวในจังหวัดตาก กว่า 3 พันคน เริ่มทยอยเดินทางกลับ และในวันพฤหัสบดีนี้จังหวัดตากไม่เหลือผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราวแล้ว
หลายชีวิตในแม่สอด-เมียวดี ยังคงต้องดำเนินไป แม้ความร้อนจะแตะ 40 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าจะปกคลุมไปด้วยหมอกควัน และบรรยากาศที่ยังกรุ่นกลิ่นสงคราม