สหรัฐ-ไทยค้นหาร่องรอยนักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในลำปาง

ในวันพฤหัสบดีนี้ สหรัฐและไทยร่วมปฏิบัติการค้นหานักบินชาวอเมริกันที่หายไปพร้อมกับเครื่องบินขับไล่ P-38 ที่เชื่อว่าตกลงในพื้นที่อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง เมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพ กล่าวว่า หน่วยงานด้านเชลยศึกและคนสูญหายในสงคราม กระทรวงกลาโหม (U.S. Defense Prisoner of War/Missing in Action Accounting Agency) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบพื้นที่ที่สงสัยว่าเป็นจุดที่เครื่องบินรบแบบ P-38 ตกลงในพื้นที่บ้านแม่กัวะ อำเภอสบปราบ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ให้ความร่วมมือในการสืบเสาะข้อมูล

ในปี พ.ศ. 2561 หน่วยงานด้านเชลยศึกและคนสูญหายในสงคราม ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมถึงการหายไปของเครื่องบิน P-38 จำนวนสามลำ ซึ่งมีการระบุหายไปในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยนำมาสู่การสืบสวนค้นหาในครั้งนี้

“การหายไปของเครื่องบินแต่ละเครื่อง หมายถึงทหารอเมริกันหนึ่งชีวิต ซึ่งเรายังไม่สามารถค้นหาได้ เราทำภารกิจครั้งนี้ด้วยการค้นคว้าข้อมูลกับทางนักประวัติศาสตร์ และอาสาสมัครจากประเทศไทยและสหรัฐ แล้วได้รวมข้อมูลเข้าด้วยกันกับเรื่องราวที่ได้รับทราบจากพยาน” แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐระบุ

ในวันพฤหัสบดีนี้ พลตรี ไบรอัน สมิธ (Major Brian W. Smith) หัวหน้าคณะค้นหา พร้อมด้วยนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐอเมริกา ได้ลงพื้นที่ต้องสงสัยว่าเป็นจุดตก และทางสถานทูตเผยได้แพร่ภาพการขุดหาเศษซากเครื่องบิน

“เป้าหมายของเราคือการทำหน้าที่รับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดและติดต่อกับทางครอบครัวผู้ที่สูญหาย ซึ่งต้องขอบคุณทางฝ่ายไทยที่ช่วยให้เรานำทหารของเรากลับบ้าน” พลตรี ไบรอัน สมิธ กล่าว

ในสงครามโลกครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1941 ถึง 1945 กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ได้รุกรานประเทศไทยด้วยการยกพลขึ้นบกตามหัวเมืองชายหาดภาคใต้และขยายยึดครองพื้นที่ทั่วประเทศภูมิภาค เพื่อส่งกำลังสู้รบกับกองทัพอังกฤษในพม่า จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมกับกองกำลังฝ่ายพันธมิตรและส่งทหารมาร่วมรบในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จนสงครามสิ้นสุดลงในที่สุด

เอกสารแถลงข่าวของสถานทูตระบุว่า มีทหารอเมริกันราว 81,600 ยังคงสูญหายไปในสงครามในอดีต ภารกิจในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่เคยมีภารกิจแบบเดียวกันเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ในปี ค.ศ. 2007