จีนหวังผลักดันเส้นทางรถไฟไทย-จีน มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2024.01.29
กรุงเทพฯ
จีนหวังผลักดันเส้นทางรถไฟไทย-จีน มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่และพนักงานการรถไฟมองดูขบวนรถไฟแล่นผ่านไป ในพิธีวางศิลาฤกษ์ความร่วมมือในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไทยและจีน กรุงเทพฯ-หนองคาย ที่นครราชสีมา วันที่ 21 ธันวาคม 2560
อาทิตย์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการหารือกับ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า จีนหวังผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน มูลค่าหลายพันล้านเหรียญให้สำเร็จ

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า การที่จีนจะส่งหมีแพนด้ามาจัดแสดงที่ประเทศไทย เป็นการสะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ 


ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนชื่นชมนายเศรษฐาที่ตัดสินใจเยือนจีนเป็นประเทศแรกนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

“ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันพัฒนายกระดับความร่วมมือโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เร่งการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจีน-ไทย และเปิดเส้นทางสายกลางเส้นทางรถไฟสายทรานส์-เอเชีย” นายหวัง กล่าวกับนายเศรษฐาระหว่างการประชุม แถลงการณ์ระบุ

ประเทศทั้งหลายควร "ตระหนักถึงความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค และส่งเสริมการดำเนินการตามวิสัยทัศน์เรื่องการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างกันของจีน ลาว และไทยแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้เกิดแรงผลักดันและเปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาระยะยาวของทั้งสองประเทศ” นักการทูตระดับสูงของจีนกล่าว

นายหวังไม่ได้บอกว่า เส้นทางรถไฟจีน-ไทยจะแล้วเสร็จเมื่อใด แต่ตามรายงานข่าวเมื่อปีที่แล้ว ไทยกำลังพิจารณาวันที่แล้วเสร็จในปี 2571

นายเศรษฐากล่าวว่า เขาและนายหวังได้พูดคุยเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะขยายจากจังหวัดหนองคายผ่านลาวเข้าสู่จีน

“โครงการนี้มีความท้าทายในเรื่องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จึงมีการตกลงกันว่า คณะทำงานจากทั้งสองประเทศจะเพิ่มความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้” นายเศรษฐากล่าว

โครงการรถไฟความเร็วสูงมูลค่ากว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt & Road Initiative) ของจีน ซึ่งเป็นแผนอันทะเยอทะยานของจีนในการสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และห่วงโซ่อุปทานที่จะเชื่อมโยงจีนกับส่วนอื่น ๆ ของโลก เส้นทางรถไฟจะเชื่อมเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ผ่านจังหวัดหนองคายและประเทศลาว

นายเศรษฐากล่าวไว้เมื่อเดือนตุลาคมว่า ไทยวางแผนที่จะเร่งการก่อสร้างเส้นทางรถไฟไปยังประเทศจีน หากยังล่าช้าเนื่องมาจากการแพร่ระบาดและสาเหตุอื่น ๆ

“โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับไทยในความร่วมมือ BRI และไทยจะต้องยกระดับการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างรถไฟภายในประเทศกับรถไฟจีน-ลาว ซึ่งเป็นโครงการ BRI หลักในภูมิภาค” นายเศรษฐากล่าว ขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีนในขณะนั้น

th-china-panda.jpg

หลินฮุ่ย แพนด้าเพศเมียที่ยืมมาจากจีนเป็นเวลา 10 ปี ขณะกินไผ่ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2548 (อภิชาติ วีระวงษ์/เอพี)

นายเศรษฐา กล่าวหลังการหารือกับ รมว. กระทรวงการต่างประเทศจีน ว่าจีนรับปากจะให้ประเทศไทยยืมหมีแพนด้า

สวนสัตว์ที่เชียงใหม่เคยมีหมีแพนด้า ปัจจุบันนี้ก็ไม่มี ซึ่งมันก็ไม่ใช่กระจกสะท้อนที่ดีกับความสัมพันธ์ทางการทูตที่เรามีมาอย่างดีกับประเทศจีนตลอด 50 ปี ก็เลยเรียนขอท่าน (นายหวัง อี้) ไป ท่านก็ยินดีให้การสนับสนุน เราก็จะหมีแพนด้ากลับมาอีกครั้งนึงมาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่นายเศรษฐา กล่าว

ประเทศจีนเคยให้ไทยยืมหมีแพนด้า 1 คู่ เป็นทูตสันถวไมตรีไทย-จีน มาจัดแสดงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ในปี 2546 เป็นแพนด้าเพศผู้ชื่อช่วงช่วงและเพศเมียหลินฮุ่ยต่อมาหลินฮุ่ย ตั้งท้องด้วยการผสมเทียม และคลอดหลินปิงแพนด้าเพศเมียออกมาในปี 2552 แต่ในปี 2556 หลินปิงถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน

ต่อมาในปี 2562 ช่วงช่วง เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวขณะอายุ 19 ปี และในปี 2566 หลินฮุ่ย ได้ป่วยและเสียชีวิตลงด้วยอายุ 21 ปี ทำให้ประเทศไทยไม่มีหมีแพนด้าอีกนับแต่นั้นมา

ข้อดี-เสีย ฟรีวีซ่าไทย-จีน 

นายเศรษฐา เผยในวันจันทร์ หลังหารือกับนายหวัง โดยหวังว่า การท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวหลังข้อตกลงฟรีวีซ่าถาวร อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจไทยกังวล ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญจะกลับมา แต่ชี้ว่าฟรีวีซ่าให้จีนเป็นเรื่องดีสำหรับการท่องเที่ยวไทย

การเปิดเผยของนายเศรษฐา สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ นายหวังกับนายนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพิ่งนามบันทึกความตกลงการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (ฟรีวีซ่า) ระหว่าง 2 ประเทศสำหรับหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567

ซึ่งก่อนหน้านี้ ไทยเคยใช้นโนบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นการจูงใจนักท่องเที่ยวชาวจีน

เราถือว่าความตกลงนี้เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพไทย-จีน ที่มีมายาวนานและความไว้เนื้อเชื่อใจในทุกระดับ ผมมั่นใจว่า หลังจากนี้ไป การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่าง ประชาชนทั้งเพื่อการท่องเที่ยว และติดต่อธุรกิจต่างๆ จะเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ช่วยกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งฝั่งไทยและจีนได้อย่างแน่นอนนายปานปรีย์ ระบุ

นายไพฑูรย์ เมฆลอย ชาวกรุงเทพฯ อายุ 45 ปี มองว่า ฟรีวีซ่าจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อาจส่งผลกระทบกับประชาชน

เราคงจะเห็นโปรแกรมทัวร์จีนออกมาขายกันเยอะขึ้น ซึ่งก็ดี กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ บริษัททัวร์ในไทยก็จะได้ฟื้นคืนอีกครั้ง แต่สิ่งที่เราพบเห็นบ่อยคือ คนจีนถ้าอยู่กันเยอะ ๆ ในร้านอาหารก็เสียงดัง ในวัดก็เสียงดัง ข้ามถนนไม่ระวังรถอาจเกิดอุบัติเหตุ เป็นไปได้ไหมที่รัฐบาลจะหาทางทำความเข้าใจเรื่องมารยาทกับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ใช่เฉพาะจีนนายไพฑูรย์ กล่าว

ด้าน นายวัลลภ พึ่งนรินทร์ เจ้าของภัตตาคารย่านพระราม 9 กล่าวกับเบนาร์นิวส์ ชี้ว่า นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องดี แต่ก็มีข้อที่น่ากังวลเช่นกัน

น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ทัวร์ศูนย์เหรียญ ก่อนโควิด เราเห็นทัวร์จีนเป็นเรื่องปกติ แต่ทัวร์ใหญ่ ๆ ที่เราเห็นนั้น ค่าใช้จ่ายตกถึงคนไทยน้อยมาก เพราะเป็นเครือข่ายจีนเองตั้งแต่ต้นทาง ให้เข้าพัก และกินอาหาร ที่เป็นร้านคนจีน เราอยากได้นักท่องเที่ยวจีนแบบแบกเป้ ที่เงินจะถึงมือคนไทยจริงๆ และอยากเห็นการให้ฟรีวีซ่าประเทศอื่นด้วยนายวัลลภ กล่าว

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมายังประเทศไทย 28.04 ล้านคน เพิ่มขึ้น 151% จากปีก่อนหน้า สร้างรายได้ถึง 1.20 ล้านล้านบาท โดยชาติที่เดินทางมามากที่สุดคือ 1. มาเลเซีย 4.5 ล้านคน 2. จีน 3.51 ล้านคน และ 3. เกาหลีใต้ 1.65 ล้านคน

นายเศรษฐา ยังเผยว่า ได้หารือกับนายหวัง เรื่องความร่วมมือระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับการเชิญจีนมาร่วมลงทุนอุตสาหกรรมรถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงร่วมมือกันแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น พนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ หลอกลวงทางโทรศัพท์ และยาเสพติด เป็นต้น

th-chinese-tourist-srettha.jpg

นักท่องเที่ยวจีนถ่ายเซลฟี่กับนายเศรษฐา ทวีสิน ในพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแรกภายใต้โครงการปลอดวีซ่า 5 เดือน ณ สนามบินนานาชาติกรุงเทพฯ วันที่ 25 กันยายน 2566 (อาทิตย์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์)

แลนด์บริดจ์กับความกังวล

นายเศรษฐา เปิดเผยหลังการประชุมร่วมในวันจันทร์ว่า จีนสนใจร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์

เรื่องแลนด์บริดจ์ ท่านเอง (นายหวัง อี้) ก็เอ่ยขึ้นมาเองว่า ทางจีนสนใจ แต่ต้องการข้อมูลเพิ่ม เอกชนจีนก็สนใจที่จะมีส่วนร่วม ในช่วงหลายปีหลัง บริษัทใหญ่ ๆ ในประเทศจีน มาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย ไม่ใช่แค่จะมาเซิร์ฟแค่ความต้องการในประเทศไทยอย่างเดียว จะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออก แน่นอนเราต้องมีท่าเรือน้ำลึก เราต้องมีโครงการเมกะโปรเจ็คใหญ่ ๆ เพื่อที่จะซับพอร์ตตรงนี้นายกรัฐมนตรี ระบุ

โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงทะเลอันดามันและอ่าวไทย (Land bridge) คือ โครงการสร้างถนนคู่กับรางรถไฟ ระยะทาง 120 กม. เชื่อมท่าเรือจากฝั่งอ่าวไทยถึงทะเลอันดามัน ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่า จะลดค่าใช้จ่ายการขนส่งสินค้า และมีความปลอดภัยมากกว่าการขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา สร้างงานในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2.8 แสนอัตรา และจะทำให้ GDP เติบโต 5.5% ต่อปี หรือราว 6.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อมีการพัฒนาโครงการเต็มรูปแบบ

แลนด์บริดจ์อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว รัฐบาลจะต้องมีมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ และนำเรื่องความคุ้มค่าทางสังคม และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วมาพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ดร. เอียชา การ์ตี นักวิจัยนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวกับเบนาร์นิวส์

ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ระนอง สัปดาห์ก่อน ชาวระนองและชุมพร ได้ยื่นหนังสือคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ แก่นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ทบทวนโครงการดังกล่าว เพราะกังวลผลกระทบด้านวิถีชีวิต และสภาพแวดล้อม ซึ่งนายเศรษฐา ก็รับปากว่าจะนำความเห็นของชาวบ้านไปประกอบการพิจารณา

จรณ์ ปรีชาวงศ์ ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง