ญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนหลายพันคนร่วมส่งวิญญาณผู้ถูกฆาตกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู สู่สรวงสวรรค์ในพิธีพระราชทานเพลิงศพที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ในวันอังคารนี้
มีการสวดอภิธรรมให้กับเหยื่อ 36 ราย ไม่นับรวมทารกอายุแปดเดือนที่เสียชีวิตในท้องแม่ เป็นเวลา 3 วัน ในวัด 3 แห่ง คือ วัดเทพมงคงพิชัย ต.ด่านช้าง 6 ราย วัดศรีอุทัย ต.อุทัยสวรรค์ 11 ราย และวัดราษฎร์สามัคคี 19 ราย ขณะที่ศพของ ส.ต.อ. ปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุถูกจัดพิธีฌาปนกิจไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 ณ วัดแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเจ้าอาวาสขอร้องไม่ให้เปิดเผยชื่อ
ศพบางส่วนจะถูกเผาบนเชิงตะกอนที่สร้างขึ้นชั่วคราวจากอิฐมอญ ความกว้าง 80 ซม. ยาว 230 ซม. และสูง 80 ซม. ซึ่งสร้างเฉพาะสำหรับเหยื่อ และเมื่อเสร็จพิธี เชิงตะกอนทั้งหมดจะถูกรื้อออกตามประเพณีศพของอีสาน ขณะที่ศพบางส่วนจะถูกเผาในเตาเผาไฟฟ้า และบางส่วนครอบครัวประสงค์จะนำศพทำพิธีเผาเอง
ในบ่ายวันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพด้วย โดยกระบวนการถูกจัดขึ้นพร้อมกันในเวลา 16.00 น. และก่อนหน้านั้นครึ่งชั่วโมง ญาติของผู้เสียชีวิตและข้าราชการในพื้นที่ทำการตั้งแถวเพื่อรอรับไฟพระราชทาน และมีการเผาจริงในเวลาค่ำ ซึ่ง พ.ต.อ. จักรพรรดิ วิจิตรไวทยะ ผู้กำกับการ สภ.นากลาง เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ประเมินแล้วมีผู้มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพครั้งนี้กว่า 4 พันคน
ด้าน นางนงลักษณ์ จันทะเยน ป้าและน้าของเหยื่อ อายุ 43 ปี ซึ่งสูญเสียหลานชาย 3 คน จากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบันยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
“หลานสามคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เกิดไล่เลี่ยกัน อยู่บ้านเดียวกัน เล่นด้วยกัน ปกป้องดูแลกัน ไปโรงเรียนด้วยกัน เราเห็นมาตลอด มันเร็วเกินไป เราไม่มีวันจะลืมความเสียใจนี้ไปได้ มันจะยังอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป มันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเรา มันรับไม่ได้ มันเยอะเกินไป รุนแรงเกินไป เด็กที่ไม่รู้เดียงสา ทำไมต้องมาเจอแบบนี้ มันทำใจยาก” นางนงลักษณ์ กล่าว
ด้านพระครูอดิศัย กิจจานุวัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี ได้พยายามปลอบโยนผู้สูญเสียให้มีกำลังใจใช้ชีวิตต่อไป
“หลังเกิดเหตุได้ไปเยี่ยมครอบครัวเหยื่อ 3-4 ครอบครัว ก็บอกให้เขาทำใจ เพราะลูกไปสบายแล้ว ทุกคนต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ก็ขอให้ทุกคนต่อสู้ แล้วความเจ็บปวดจะค่อย ๆ คลาย หลังจากเผาแล้ว และเรายังคงต้องเทียวไปเทียวมาให้กำลังใจครอบครัวที่สูญเสีย” พระครูอดิศัย กล่าว
ด้าน นางสายธาร โคตรปัญญา 41 ปี ป้าของเด็กที่เสียชีวิต 2 คน และเด็กที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องปัญหายาเสพติด เพราะกลัวว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุซ้ำได้ ส่วนหลานที่ได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบัน มีอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
“ทุกวันนี้ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าศูนย์ฯ ยังไม่อยากมองเลย เพราะเมื่อก่อนเวลาไปทำนาจะเห็นหลานออกมาวิ่งเล่น ตอนนี้จิตตก รับไม่ได้ หดหู่ เดินแทบจะไม่ไหว คนในหมู่บ้านนี้รู้จักกันหมดทุกคน เหมือนเป็นญาติกัน คนที่ทำ (ส.ต.อ. ปัญญา) เราก็รู้จักเขา แต่ไม่อยากเอ่ยชื่อ ไม่อยากพูดถึง โกรธมาก ไม่อโหสิให้” นางสายธาร กล่าว
ญาติ ๆ ของผู้สูญเสียร่ำไห้ระหว่างพิธีพระราชทานเพลิงศพเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุสังหารหมู่ ศูนย์พัฒนารับเลี้ยงเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ที่วัดราษฎร์สามัคคี จังหวัดหนองบัวลำภู วันที่ 11 ตุลาคม 2565 (เอพี)
เหตุโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญคนทั้งโลก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 โดย ส.ต.อ. ปัญญา คำราบ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้อาวุธปืนและมีด สังหารนักเรียนชั้นเด็กเล็กอายุ 3 ถึง 5 ขวบ, ครู และประชาชนในบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู และบริเวณใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 37 ราย (ในจำนวนนั้น เป็นหญิงตั้งครรภ์ 8 เดือน) และได้บาดเจ็บ 10 ราย ก่อนที่ ส.ต.อ. ปัญญา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต
จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุของ ส.ต.อ. ปัญญา อาจมาจากปัญหาครอบครัว ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ ส.ต.อ. ปัญญา ถูกไล่ออกจากราชการ เพราะไปเกี่ยวข้องยาเสพติด เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ประเด็นยาเสพติด และอาวุธปืน ถูกหยิบยกมาวิจารณ์ในสังคม และในวันอังคารนี้ คณะรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นการปราบปราบยาเสพติดและกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ส่วนหนึ่งมาจากปัญหายาเสพติดและสภาพจิตใจของผู้ก่อเหตุ… รัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน ยาเสพติด ตลอดจนหาแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ เพื่อป้องกันเหตุร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต” นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย
นายอนุชา ระบุว่า ช่วงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคม 2565 พล.อ. ประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องปัญหายาเสพติด การครอบครองอาวุธปืน การบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด