ศาลอาญาตัดสินส่งตัว อี ควิน เบอดั๊บ ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามกลับประเทศ

อี ควิน เบอดั๊บ นักเคลื่อนไหวชาวมองตานญาด ซึ่งโดนข้อหาก่อการร้ายในเวียดนาม กล่าวว่าเขาจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลไทย

ศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันจันทร์ว่า อี ควิน เบอดั๊บ ควรจะถูกส่งตัวกลับประเทศเวียดนามเพื่อรับผิดตามข้อกล่าวหา และผู้พิพากษาศาลอาญาระบุว่า มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอที่จะตัดสินให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปตามคำขอของรัฐบาลเวียดนาม

โดยฝ่ายรัฐบาลไทยมีสิทธิที่จะตัดสินชะตากรรมของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวเวียดนามรายนี้ ที่กล่าวว่า ตนหวาดกลัวที่จะถูกทารุณกรรมจนถึงแก่ชีวิต หากถูกส่งตัวกลับประเทศ

“ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะมีการดำเนินการให้มีการส่งตัวจำเลยกลับภายใน 90 วัน หรือไม่” ผู้พิพากษากล่าวในชั้นศาล

เบอดั๊บมีเวลา 30 วัน เพื่อยื่นขออุทธรณ์ และหากเขาไม่ถูกส่งตัวกลับภายใน 90 วัน เขาจะถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ

หลังศาลมีคำพิพากษา เบอดั๊บ วัย 32 ปี ในชุดผู้ต้องขังสีน้ำตาล ยังมีท่าทีสงบ จากนั้นเขาถูกส่งตัวกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเรือนจำที่เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน

เบอดั๊บ เป็นชาวชาติพันธุ์อีเด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ราว 30 กลุ่ม ผู้อาศัยอยู่แถบที่ราบสูงตอนกลางในประเทศเวียดนาม โดย คำว่า “มองตานญาด” เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “ชาวเขา” ซึ่งชาวฝรั่งเศสใช้เรียกคนกลุ่มนี้ในช่วงล่าอาณานิคม

ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ ชาวมองตานญาดส่วนใหญ่อ้างว่า กลุ่มของตนถูกเลือกปฏิบัติจากทางการเวียดนามในหลายประเด็น เช่น การนับถือศาสนา หรือการถือครองที่ดิน ซึ่งทางการเวียดนามปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

ศาลเวียดนามตั้งข้อกล่าวหาว่า เบอดั๊บลงมือก่อการร้ายในเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งการกระทำของเขาเชื่อมโยงกับการบุกรุกโจมตีสำนักงานสาธารณะ 2 แห่ง ในบริเวณที่ราบสูงตอนกลาง จังหวัดดั๊กลัก ประเทศเวียดนาม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และต้องโทษจำคุก 10 ปี ในข้อหาก่อการร้าย

แต่เบอดั๊บปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และอ้างว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เขาลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย

ตั้งแต่ปี 2561 เบอดั้บ นักกิจกรรมชาวชาติพันธุ์อีเด ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรมองตานญาดเพื่อความยุติธรรม (Montagnard Stand for Justice - MSFJ) พำนักอยู่ในประเทศไทยในฐานะผู้ลี้ภัยกับครอบครัว

รัฐบาลไทยต้องเป็นผู้ตัดสิน

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้มอบสถานะผู้ลี้ภัยให้กับเบอดั๊บ เขาจึงมีสิทธิในการใช้ชีวิต ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย และได้รับความช่วยเหลือต่าง ๆ แม้ว่าประเทศไทยยังไม่เคยลงสัตยาบัน ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสถานะของผู้ลี้ภัย ปี 2494 ก็ตาม

ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความของเบอดั๊บ ให้ข้อมูลว่า เขาตัดสินใจที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาล

“เรารู้สึกผิดหวังกับคำตัดสินของศาล ตอนนี้จึงกำลังดำเนินการเพื่อขออุทธรณ์” เธอกล่าว และเสริมว่า การส่งตัวจำเลยกลับประเทศต้นทางจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทย หลังจากที่ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสิน

“เราหวังว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะออกคำสั่งไม่ให้ส่งตัวเขากลับไป”

2-th-vn-thai-court-ruled-Bdap.jpeg
ทนายความจำเลย ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บริเวณด้านนอกศาลอาญากรุงเทพฯ วันที่ 30 กันยายน 2567 (เรดิโอฟรีเอเชีย)

การตัดสินคดีนักเคลื่อนไหวชาวมองตานญาดสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนเรื่องสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มกล่าวว่า หลายประเทศในภูมิภาคมีการปราบปรามชาวต่างชาติผู้มีความเห็นต่างทางการเมืองที่กำลังลี้ภัยมากขึ้น

“หากมีความกดดันจากนานาชาติมากพอ ศาลเองก็อาจจะไม่อยากรับผิดชอบในการตัดสินให้ส่งตัว อี ควิน เบอดั๊บ กลับประเทศเวียดนาม” แอนเดรีย จีออเกตา จากสหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล (International Federation for Human Rights - FIDH) บอกกับเรดิโอฟรีเอเชีย

“ตอนนี้การตัดสินใจอยู่ในมือของศาลไทย และทางการไทยก็ควรปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล โดยอนุญาตให้ปล่อยตัว อี ควิน เบอดั๊บ และให้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม”

ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการ ศูนย์รณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนและแรงงาน ประณามคำตัดสินของศาลว่า “น่าละอายและน่าตกใจ”

“ศาลไทย... ไม่เข้าใจในพื้นฐานความเป็นจริงว่า อี ควิน เบอดั๊บจะต้องถูกทารุณกรรม หากถูกบังคับส่งตัวกลับไปประเทศเวียดนาม อีกทั้งศาลไทยยังเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จและบิดเบือนของศาลเวียดนามอีกด้วย” ฟิล โรเบิร์ตสัน เสริม