รัฐบาลเมียนมาปิดเส้นทางขนส่งน้ำมัน เข้าแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ทางชายแดนเมียวดี
2025.02.10

รัฐบาลทหารเมียนมาได้สั่งปิดเส้นทางการส่งเชื้อเพลิงไปยังเมืองที่อยู่ติดกับชายแดนของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแก๊งสแกมเมอร์ หลังจากที่ไทยได้ดำเนินการตัดการจ่ายไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และการให้บริการอินเทอร์เน็ตในดินแดนที่ไร้กฎหมายควบคุม ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการฉ้อโกงและการใช้แรงงานทาส
เมืองเมียวดี ในเมียนมา อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force - BGF) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร และได้เปิดพื้นที่ให้กับเครือข่ายอาชญากรจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ดำเนินงานโดยเครือข่ายชาวจีน ซึ่งใช้พื้นที่นี้เป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์ในลักษณะ “เชือดหมู” หรือแผนหลอกให้เหยื่อลงทุนก่อนสูญเงินทั้งหมด
รัฐบาลไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต รวมถึงปิดกั้นการส่งเชื้อเพลิงไปยังเมียวดีตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ หลังจากเกิดกระแสความวิตกกังวลทั่วเอเชียเกี่ยวกับแรงงานบังคับในศูนย์รวมสแกมเมอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารเมียนมาได้สั่งระงับการขนส่งเชื้อเพลิงจากท่าเรือในภาคกลางของประเทศไปยังเมียวดี ซึ่งเดิมมีเป้าหมายเพื่อทดแทนเชื้อเพลิงที่ถูกระงับการขนส่งจากไทย ตามข้อมูลที่ชาวบ้านในเมียวดีให้สัมภาษณ์กับเรดิโอฟรีเอเชีย
เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาไม่อนุญาตให้รถบรรทุกน้ำมันผ่านจุดตรวจที่สะพานบนเส้นทางระหว่างเมืองกอกะเระและเมียวดี
“ตอนนี้ในเมืองไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงเลย” ชาวบ้านเมียวดีคนหนึ่งกล่าว โดยไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย
“มีรถบรรทุกน้ำมันมากกว่า 40 คัน ติดอยู่ที่จุดตรวจของรัฐบาลทหาร” ชาวบ้านกล่าวเสริม “เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น”
เรดิโอฟรีเอเชียพยายามโทรศัพท์ติดต่อ พล.ต. ซอ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจำกัดเชื้อเพลิง แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย
วิธีการต้มตุ๋นที่เรียกว่าการ “เชือดหมู” ในจีน เป็นกระบวนการที่ทำโดยการติดต่อกับเหยื่อผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่เหยื่อไม่ทันระวังตัว จากนั้นผู้กระทำผิดจะสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเหยื่อก่อนจะทำการฉ้อโกง ศูนย์เหล่านี้มักมีพนักงานที่ถูกล่อลวงด้วยโฆษณางานปลอมและถูกบังคับให้ทำงาน
การช่วยเหลือนักแสดงชาวจีนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดีเมื่อเดือนที่แล้ว ได้สร้างกระแสตื่นตัวในระดับนานาชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนต่างหวาดกลัว จนพากันยกเลิกแผนการเดินทางไปประเทศไทย และกระตุ้นให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการปราบปราม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีของไทย แพทองธาร ชินวัตร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สำหรับการปราบปรามศูนย์หลอกลวง หรือสแกมเซ็นเตอร์เหล่านี้
ปั๊มน้ำมันแห้งขอด
ชาวเมืองเมียวดีระบุว่าข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงส่งผลกระทบต่อพวกเขาเช่นเดียวกับสแกมเซ็นเตอร์
“ธุรกิจหลายแห่งต้องพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำสำหรับทำทุกกิจกรรม ดังนั้นการตัดเชื้อเพลิงไม่เพียงจะกระทบแก๊งสแกมเมอร์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประชาชนทั่วไปด้วย” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมียวดีเผยว่า มีน้ำมันเพียงพอสำหรับรถยนต์แค่หนึ่งหรือสองคันเท่านั้น และก็ขายหมดไปแล้ว แม้ว่าราคาจะพุ่งขึ้นเกือบสองเท่าเป็น 10,000 จ๊าต (ประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร
ในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางหลักของการดำเนินแก๊งสแกมเมอร์อย่างชเวโก๊กโก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเมียวดีไปทางเหนือ 15 กิโลเมตร (9 ไมล์) มีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นเกือบ 20,000 จ๊าด ก่อนที่จะขายหมด
“ที่ชเวโก๊กโก ไม่มีน้ำมันเหลืออยู่เลย คุณไม่สามารถขับรถที่นี่ได้เลย” ชาวบ้านกล่าว
กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) เกิดขึ้นหลังจากการแตกแยกของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union - KNU) ซึ่งเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาวคริสเตียนที่เก่าแก่ที่สุดของเมียนมาในช่วงทศวรรษ 1990 (ราว พ.ศ. 2533) โดยกลุ่มนักรบที่แยกตัวออกมาตั้งเป็นกองกำลังของตนเองและร่วมมือกับกองทัพเมียนมา ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับสิทธิ์ในการควบคุมเมืองเมียวดี
นักวิเคราะห์ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ทำเป็นไม่รับรู้ถึงสแกมเซ็นเตอร์เหล่านี้ และอาจได้รับประโยชน์จากศูนย์เหล่านี้ด้วย ขณะที่ BGF ช่วยกองทัพเมียนมากีดกันกองกำลัง KNU ออกจากจุดผ่านแดนสำคัญสำหรับการค้าระหว่างไทย-เมียนมา
เมื่อเผชิญกับแรงกดดันจากทุกฝ่าย BGF ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการกับปัญหาในพื้นที่ของตนและหยุดการต้มตุ๋นกับการใช้แรงงานบังคับ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา BGF ได้ออกคำสั่งให้ชาวจีนที่ทำงานในธุรกิจออนไลน์ออกจากเมืองพญาตองซู ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมียวดีติดชายแดนไทย ภายในสิ้นเดือนนี้
ผู้นำรัฐบาลทหาร พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพจะดำเนินมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน