เพื่อไทยเข้าใกล้การหวนคืนสู่อำนาจหลังคืนดีกับพรรค 'สองลุง'

ภายหลังจากภาวะหยุดนิ่งทางการเมืองในสามเดือนหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐสภาไทยคาดว่าจะได้รัฐบาลที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย

แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะทำให้ตลาดการเงินสงบลงหลังจากความไม่แน่นอนหลายเดือน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศสงบตามไปด้วย

พรรคก้าวไกลซึ่งได้รับที่นั่งในสภามากที่สุดจากการเลือกตั้ง จำนวน 151 ที่นั่ง ไม่สามารถขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล

ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้พยายามจัดตั้งแนวร่วมของตนเอง โดยไม่รวมพรรคของ “สองลุง” ซึ่งหมายถึงพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีความเชื่อมโยงกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้นำการรัฐประหารปี 2557 และรักษาการนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ดี ด้วยจำนวนที่นั่งเพียง 238 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยจึงขาดเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ถึงกระนั้น สำหรับวุฒิสมาชิก การถอดพรรคก้าวไกลออกจากกลุ่มรัฐบาลใหม่ และการให้คำมั่นว่าจะไม่แก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็เพียงพอแล้วสำหรับการโหวตของพวกเขา

ในขณะที่บางคนกังวลเกี่ยวกับการขัดขวางเจตจำนงของประชาชน เพราะกลัวว่าจะก่อให้เกิดความรุนแรงบนท้องถนนและตลาดการเงินที่ปั่นป่วน

อย่างไรก็ตาม งานที่สำคัญของสมาชิกวุฒิสภา ไม่ใช่การรับรองเจตจำนงของประชาชน แต่เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์นิยม กลุ่มทหาร และขัดขวางการปฏิรูปการเมือง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึง ไม่สนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลที่เพื่อไทยจัดตั้งในช่วงแรก และบีบให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องเชิญพรรค "สองลุง" เข้าร่วมรัฐบาลด้วย

ด้วยการรวมพรรคพลังประชารัฐ (40 เสียง) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (36 เสียง) ทำให้กลุ่มพันธมิตรมีคะแนนเสียงในสภา 314 เสียง จากทั้งหมด 500 เสียง และจะได้เสียงจากสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงตามที่กำหนด 375 เสียง เพื่อการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลประกาศว่าจะไม่สนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่นี้ ขัดต่อเจตจำนงของประชาชน ทำให้แนวร่วมเพื่อพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องร่วมรัฐบาลกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ นับเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม พรรคที่ได้รับการสนับสนุนจากทหารได้ความอับอายจาก เสียงโหวตอันน้อยนิด แต่พวกเขายังมีเก้าอี้และมีตำแหน่งที่มีอำนาจในการขัดขวางนโยบายสาธารณะใด ๆ ที่พวกเขาเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

แม้พรรคเพื่อไทยให้คำมั่นว่า ทั้งประวิตรและประยุทธ์จะไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่นั่นก็ยังห่างไกลจากความเป็นจริง ขณะนี้พลังประชารัฐกำลังตื่นเต้นว่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง จึงได้ออกมาประกาศสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลสูตรนี้

15-abuza-2.JPG
Thailand general election Srettha Thavisin, a local property tycoon and Pheu Thai Party's prime ministerial candidate speaks to the media, after the polling stations closed, on the day of the general elections in Bangkok, Thailand, May 14, 2023. REUTERS/Athit Perawongmetha (ATHIT PERAWONGMETHA/REUTERS)

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย พูดคุยกับนักข่าวในกรุงเทพฯ หลังปิดการลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 (อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์)

วุฒิสมาชิกบางรายระบุว่า พวกเขายังคงไม่สนับสนุนรัฐบาลและสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงหยุดอยู่แค่การกำจัดพรรคก้าวไกล ในเมื่อพวกเขามีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ไม่ต้องรวมทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่เป็นคู่ปรับกันมาตลอดกาล แม้ว่าวุฒิสมาชิกส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเข้าใจว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจนำไปสู่ความไม่สงบทางการเมืองในวงกว้าง และไม่สามารถผ่านกฎหมายใด ๆ ในรัฐสภา รวมถึงงบประมาณด้วย

ไม่มีพรรคการเมืองหัวก้าวหน้าอีกต่อไปแล้วหรือ

มีคำถามใหญ่สามข้อที่ต้องพิจารณา ประการแรก นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดของพรรคเพื่อไทยหรือไม่

หรือนี่อาจเป็นการตอบสนองต่อความปรารถนาของแกนนำพรรค เพราะพวกเขาเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมากในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ความได้เปรียบในระยะสั้นอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางการเมืองในระยะยาว

สมาชิกระดับสูงของพรรคบางราย และโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง พวกเขาแสดงความรู้สึกโกรธเคืองอย่างชัดเจนที่พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมกับผู้นำการรัฐประหารในปี 2557 ทำให้พรรคเพื่อไทยจะอ้างว่าเป็นพรรคที่มีความคิดก้าวหน้าไม่ได้อีกต่อไป

ผู้คนต่างนำไปเปรียบเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ จากเดิมที่เคยเป็นพรรคใหญ่อันดับสอง กลายเป็นพรรคที่กลายเป็นไม่มีความสำคัญทางการเมือง หลังจากการร่วมมือกับทหารในปี 2551 และประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังไม่ยกโทษพวกเขา

ที่ผ่านมาเกิดความกังวลว่า สส. พรรคเพื่อไทย 25 คน นำโดยจาตุรนต์ ฉายแสง อาจย้ายไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล แต่พวกเขาก็ปฏิเสธเรื่องนี้ แสดงให้เห็นชัดว่าเกิดความรู้สึกไม่สบายใจในพรรคเพื่อไทยกับการรวมพรรคสองลุง

แกนนำพรรคเพื่อไทยกำลังคำนวณว่าพวกเขาจะสร้างผลตอบแทนให้กับประชาชนมากพอในระยะเวลา 4 ปีของการเป็นรัฐบาล เพื่อทำให้ผู้สนับสนุนไม่เปลี่ยนใจไปโหวตให้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งกลายเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนของการต่อต้านทหารและผู้มีอิทธิพล

อีกทางหนึ่งที่แกนนำจะพยายามประนีประนอมความไม่พอใจในหมู่ผู้สนับสนุนของพรรคก็คือ การต่อรองเรื่อง การกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสถานะของผู้ต้องหาหลบหนี โดยถูกตัดสินจำคุก 12 ปี จากการแพ้คดี 4 คดี ทำให้เขาต้องอาศัยอยู่ต่างแดนนานกว่า 15 ปี

ทักษิณประกาศว่าจะกลับมาในวันที่ 10 สิงหาคม แต่ได้เลื่อนการกลับมาเนื่องจาก "เหตุผลด้านสุขภาพ" แต่ข้อเท็จจริงคือความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรคเพื่อไทยคิดเอาไว้ ทักษิณจะถูกจับกุมที่สนามบินเมื่อเขามาถึง และขอพระราชทานอภัยโทษหลังจากถูกคุมขัง 24 ชั่วโมง

คำถามที่สองคือ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรคก้าวไกล

ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เก่งกาจ และกำลังจะเสียเวลาในการเป็นตัวแทนหลักของการปฏิรูปการเมืองในรัฐสภาครั้งนี้ เพื่อแย่งเสียงโหวตของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งถัดไป นอกจากนี้ พรรคยังได้ยื่นร่างกฎหมาย 10 ฉบับ เพื่อรักษาหลักการทางกฎหมายและคำมั่นสัญญาในการหาเสียง

คำถามที่ใหญ่กว่านั้นคือ พรรคจะอยู่ต่อไปหรือไม่ และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและผู้บริหารคนอื่น ๆ จะอยู่รอดทางการเมืองหรือไม่

นอกจากการสืบสวนเรื่องหุ้นบริษัท ITV แล้ว พิธาและพรรคก้าวไกลยังต้องเผชิญกับการสืบสวนและการร้องเรียนทางอาญาทั้งในศาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงข้อหาละเมิดข้อห้ามหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วยการเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 ที่อนุญาตให้ใช้กฎหมายที่เข้มงวดในการต่อต้านการหมิ่นประมาทสถาบันกษัตริย์

เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ ในปี 2562 พรรคก้าวไกลอาจถูกยุบ แต่คงจะเกิดพรรคใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว แต่พิธาเองก็อาจต้องโทษจำคุก และมากกว่านั้นคืออาจถูกแบนจากการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

สิ่งนี้นำไปสู่คำถามที่สามซึ่งเป็นคำถามสุดท้าย นั่นคือ สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความไม่สงบทางการเมืองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายอนุรักษ์นิยมเคลื่อนไหวเพื่อยุบพรรคก้าวไกล และสกัดกั้นพิธาอย่างรวดเร็ว ศักยภาพในการชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ นั้นมีสูง แต่ก็มีแนวโน้มว่าชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะจัดการกับพิธา และพรรคก้าวไกล ในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป และทำให้มีบทบาททางการเมืองน้อยลง

แม้ว่าการประท้วงนั้นแทบจะเป็นสูตรสำหรับการสร้างความรุนแรงทางการเมือง แต่การประท้วงบนท้องถนนยังคงมีขนาดเล็ก และไม่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักกิจกรรมที่โดดเด่นส่วนใหญ่ยังอยู่ในคุก หรืออยู่ระหว่างการประกันตัว ส่วนแกนนำใหม่ ๆ นั้น ก็ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และมีเสน่ห์ค่อนข้างน้อย

กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่เคยใช้เครื่องมือทางกฎหมายเพื่อขัดขวางเจตจำนงของประชาชน พวกเขาจะสูญเสียเครื่องมือเหล่านั้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า เมื่อวาระของวุฒิสมาชิกหมดลง

หากในตอนนี้พวกเขาจะมีสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาล เพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะและควบคุมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยของ นายเศรษฐา ทวีสิน

ซาคารี อาบูซา เป็นอาจารย์ประจำที่เนชั่นแนล วอร์ คอลเลจ ในวอชิงตัน ความคิดเห็นที่แสดงไว้ในบทความนี้เป็นของเขาเอง และไม่ได้สะท้อนถึงจุดยืนของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เนชั่นแนล วอร์ คอลเลจ หรือเบนาร์นิวส์